โรคปอดติดเชื้อ โรคนี้หลาย ๆ คนน่าจะเคยได้ยิน หรือรู้จักกันบ้างแล้ว เพราะปัจจุบันนี้มีผู้คนไม่น้อยเลยที่เป็นโรคปอดติดเชื้อ และมีแนวโน้มว่าผู้ป่วยจะมีจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วย โดยการที่ปอดติดเชื้อได้ก็มาจากการที่มีเชื้อโรคเข้าไปสู่ร่างกายและลงไปยังปอด เมื่อเชื้อโรคสามารถเข้าสู่ปอดได้ ก็อาจจะทำให้มีอาการที่รุนแรงได้
การที่เชื้อโรคจะเข้าถึงปอดได้จะต้องผ่านหลายส่วนกว่าจะถึงที่บริเวณปอด ไม่ว่าจะเป็น จมูก, คอหอย หรือว่าหลอดลมใหญ่-เล็กนั่นเอง ช่องทางที่จะทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ปอดได้ก็มาจาก 2 ทางด้วยกัน คือ จากการสูดลมหายใจ และจากทางกระแสเลือด ทั้งนี้ผู้ป่วยปอดติดเชื้อรู้หรือไม่ว่า ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เป็นโรคนี้ได้ มาจากอะไรบ้าง ในบทความนี้จะมาบอกให้ได้รู้กัน
ผู้ป่วยปอดติดเชื้อต้องรู้ ปัจจัยเสี่ยงใดบ้างที่ทำปอดติดเชื้อ
ผู้ป่วยปอดติดเชื้อรู้หรือไม่ว่า การที่ปอดติดเชื้อนั้น สามารถเกิดขึ้นได้จากหลากหลายปัจจัย โดยปกติแล้วร่างกายของคนเราจะมีภูมิต้านทาน และมีกลไกที่จะใช้ในการป้องกันตัวเองจากเชื้อโรคต่าง ๆ ที่จะเข้ามาในร่างกาย แต่มีปัจจัยใดบ้างที่ทำให้เชื้อโรคสามารถเข้ามาได้ถึงปอดของเรา ซึ่งปัจจัยที่ว่านั้นก็มีดังต่อไปนี้
1. การติดเชื้อโรคที่มีความรุนแรง โดยเชื้อโรคที่มีความรุนแรงนั้น สามารถเกิดขึ้นได้จากเชื้อโรคหลากหลายประเภท เช่น เชื้อรา, วัณโรค, แบคทีเรีย โดยเฉพาะเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย ถือว่าเป็นเชื้อโรคที่สามารถพบได้บ่อยที่สุดในคนที่เป็นโรคปอดอักเสบ
2. ภูมิคุ้มกันบกพร่อง เป็นสิ่งที่ทำให้เชื้อสามารถเข้าสู่ปอดได้ง่ายมาก ๆ เพราะร่างกายไม่มีภูมิคุ้มกันที่เพียงพอมาปกป้องไม่ให้เชื้อโรคเข้าไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ป่วยเป็นโรคหอบหืด, โรคถุงลมโป่งพอง, โรคปอด หรือว่าคนที่เคยมีฝีในปอดมาก่อน ก็จะมีโอกาสที่เชื้อโรคจะเข้าสู่ปอดได้ง่าย และติดเชื้อได้ง่ายกว่าคนทั่วไป
3. มีการสัมผัสเชื้อเป็นประจำ โดยในส่วนนี้หากว่ามีการรับเชื้ออยู่ประจำ หรือรับมาในปริมาณที่มากเกินไป ก็จะทำให้เชื้อโรคสามารถเข้าสู่ปอดได้ แม้ว่าจะมีเชื้อที่ไม่รุนแรง และมีภูมิคุ้มกันร่างกายที่ดีก็ตาม แต่หากว่าสัมผัสเชื้อมาก และบ่อยเกินไป ก็ทำให้สามารถเป็นโรคปอดติดเชื้อได้ไม่ยากเลย
จากทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ก็เป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เป็นโรคปอดอักเสบได้ ซึ่งผู้ป่วยปอดติดเชื้อคงจะมีความเข้าใจมากขึ้นแล้วว่า ทำไมถึงทำให้เกิดเป็นโรคนี้ได้ ทั้งนี้สำหรับใครที่เป็นแล้วก็จะต้องเข้ารับการรักษา และจะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพราะหากว่าเป็นในระดับที่ไม่รุนแรงก็จะสามารถทำให้หายขาดจากโรคนี้ได้นั่นเอง